ณัฎฐ์ธเดช-ณัฎฐพัชร ชัยปกรณ์วงศ์
ผู้นำระดับ 4 Star Diamond
สมาชิกสโมสร 10 ล้าน / นักคอมพิวเตอร์ / นักโภชนาการ
พูดไม่เก่ง-นักโภชนาการ ทำได้ !
“อึด ทุ่มเท มุ่งมั่น คือ จุดเริ่มต้นของความสำเร็จ”
VDO เชื่อเพื่อสำเร็จ….ความฝัน…ความเชื่อ…ความสำเร็จ
เนื่องจากครอบครัวประสบปัญหาล้มละลายมากกว่า 100 ล้านบาท ทำให้ 2 พี่น้องคระกูล “ชัยปกรณ์วงศ์” ทั้ง “ณัฎฐ์ธเดช-ณัฎฐพัชร ชัยปกรณ์วงศ์” โดยเฉพาะ “ณัฎฐธเดช” ซึ่งเป็นพี่คนโตของตระกูลจึงมีแนวคิดที่อยากจะหาธุรกิจเสริม เพื่อนำรายได้มาหล่อเลี้ยงครอบครัว
ธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจที่ไม่ต้องใช้เงินทุนสูง และสามารถทำควบคู่กับงานประจำได้ จึงทำให้ “ณัฎฐธเดช” ตัดสินใจเข้าสู่ธุรกิจเครือข่ายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
“ช่วงแรกที่เริ่มเข้าสู่ธุรกิจอาเจล ไม่ได้มีความถนัดในธุรกิจเครือข่ายเลย เพราะผมจบมาทางด้านคอมพิวเตอร์และได้ไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษในด้านภาษา ซึ่งในช่วงที่ทำงานประจำอยู่ ได้มาพบกับธุรกิจอาเจล
พอได้เข้ามาทำก็อยากที่จะประสบความสำเร็จ สาเหตุเพราะที่บ้านประสบปัญหาล้มละลาย 100 กว่าล้านบาท ซึ่งเราอยากจะทำธุรกิจแต่ไม่มีเงินทุน เพราะรายได้จากงานประจำไม่พอใช้ ประกอบกับในช่วงนั้นน้องสาว (ณัฎฐพัชร ชัยปกรณ์วงศ์) ได้เอ็นทรานซ์ติดที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะสหเวชศาสตร์ สาขาโภชนาการและกำหนดอาหาร ทำให้ไม่มีเงินส่งเสียน้องเรียนจึงตัดสินใจทำธุรกิจอาเจลเป็นรายได้เสริม”
แม้ในช่วงแรกของการทำธุรกิจอาเจลจะไม่มีความเชื่อเรื่องของผลิตภัณฑ์เลย แต่หลังจากที่ได้นำผลิตภัณฑ์ของอาเจลไปให้ คุณพ่อทาน ปรากฏว่าค่าน้ำตาลลดลงอย่าชัดเจน จาก 190 ลดลงมาเหลือ 120 ซึ่งเป็นระดับเกือบปกติภายในระยะเวลาเพียง 20 กว่าวันเท่านั้น ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้
จากนั้นก็นำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปให้น้องสาว (ณัฎฐพัชร ชัยปกรณ์วงศ์) ซึ่งป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมีย ที่ต้องให้เลือดทุก 3 อาทิตย์ ปรากฏว่าภูมิต้านทานก็ดีขึ้น ผลเลือดดีขึ้น เลยตัดสินใจทำธุรกิจอย่างจริงจัง
ด้าน “ณัฎฐพัชร ชัยปกรณ์วงศ์” บอกว่าแม้จะเรียนจบมาทางด้านโภชนบำบัดทางด้านอาหารเพื่อใช้ในการดูแลผู้ป่วยและคนไข้ ทำให้รู้ดีว่าการทานอาหารเป็นสิ่งสำคัญ แต่ว่าโรคที่เป็นอยู่ไม่สามารถรักษาได้ ต้องใช้การดูแลควบคู่กับการแพทย์ปกติ และจากการได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของอาเจลที่ชื่อ อูมิ (UMI) จากเดิมต้องรับเลือดทุก 3 อาทิตย์ ก็ยืดอายุออกไปได้เป็น 4-5 อาทิตย์ ซึ่งทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นมาก
ณัฎฐธเดช ยอมรับว่า การเข้ามาทำธุรกิจอาเจล ในช่วงแรกได้รับการต่อต้านจากทุกคนในครอบครัว และเพื่อนๆ ก็ไม่เข้าใจแต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ยังคงยืนหยัดสู้ต่อไปคือ เราคิดว่าทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ทำเพื่อทุกคนในครอบครัว และจากการทุ่มเททำงานอย่างหนักทำให้วันนี้ทุกคนในครอบครัวเข้ามาทำธุรกิจอาเจลทั้งครอบครัว
อย่างไรก็ตามสิ่งที่สร้างความภูมิใจมากที่สุด คือ การมีรายได้หลายแสนบาทต่อเดือน สามารถส่งน้องเรียนจบมหาวิทยาลัยด้วยเงินจากอาเจลทั้งหมด ซื้อคอนโดมิเนียมหรูใจกลางรัชดา ได้รับกองทุนรถเบนซ์หรู 1 คัน ได้ทริปท่องเที่ยวฟรีต่างประเทศมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก และที่สำคัญได้พัฒนาบุคลิกภายตัวเอง
“เป้าหมายในปี 2555 จะสร้างทีมงานขึ้นตำแหน่งไดมอนด์เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4 คนให้ได้ และอยากจะประสบความสำเร็จในระดับเวิลด์คลาส โดยวางแผนไว้ใน 2 ปีข้างหน้าจะต้องเป็นผู้นำที่มีเครือข่ายในต่างประเทศเติบโตอย่างมั่นคง 4 ประเทศ และในอีก 5-10 ปีข้างหน้าอยากจะมีองค์กรในต่างประเทศอีกประมาณ 10 ประเทศ ซึ่งความฝันอยากจะเป็นนักเครือข่ายระดับเวิลด์คลาสเหมือนกับ “คุณนิติ สว่างทรัพย์”
(รู้จักผมเพิ่มเติม คลิกที่นี่ครับ)